Fisherman’s Wharf, แหล่งรวมนักท่องเที่ยว

Fisherman’s Wharf, แหล่งรวมนักท่องเที่ยว


Fisherman’s Wharf เป็นแหล่งประวัติศาสตร์ริมน้ำที่สำคัญของเมืองนี้ แต่ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและเป็นแหล่งรวมความบันเทิงของครอบ ครัวที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งใน San Francisco เพราะนอกจากจะเป็นที่จอดเรือของชาวประมงแล้ว ยังติดกับ Pier 39 หรือ ท่าเรือเลขที่ 39 ที่เต็มไปด้วยร้านค้า สวนสนุกขนาดย่อม และร้านอาหารเช่น Pier Restaurants, Hard Rock Cafe และยังมี Aquarium of the Bay หรือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีสัตว์ทะเลนานาชนิด (แต่ถ้าคุณมีเวลาและอยากดู aquarium ดี ๆ ให้ไปที่ Monterey Bay Aquarium ดีกว่าเพราะมีสัตว์น้ำสวย ๆ แปลก ๆ มากมาย) Pier 39 ยังเป็นที่อยู่และที่อาบแดดของเหล่าสิงโตทะเล ที่มาอวดโฉมร้องส่งเสียงดังสร้างสีสันให้กับย่านนี้เป็นอย่างมาก

สำหรับคนที่ชื่นชอบอาหารทะเลทั้งหลาย ต้องมาลองอาหารทะเลสด ๆ ที่นี่ ซึ่งมีทั้งเบอร์เกอร์กุ้ง เบอร์เกอร์ปู หรือพาสตาลอบสเตอร์ เป็นต้น ตลอดย่าน Fisherman’s Wharf จะเต็มไปด้วยร้านอาหารทะเลที่นึ่งสด ๆ ให้เห็นกันจะจะ มีทั้งกุ้งนึ่ง ปลาหมึกชุบแป้งทอด ปูนึ่ง (Dungenese Crab ซึ่งเป็นปูที่มีรสชาติอร่อยและเนื้อเยอะมาก มีชื่อเสียงมากในแถบ California) เวลาจะทานก็จะจิ้มกับน้ำจิ้มที่ทำจากเนยผสมกับน้ำมะนาว แปลกไปอีกแบบ (แต่ของบอกว่าน้ำจิ้ม seafood บ้านเราแซ่บกว่าเยอะเลยล่ะ) แล้วที่ขาดไม่ได้ก็ต้องเป็นซุปหอยลายหรือ (Clam Chowder) ที่ใส่ลงไปในขนมปังเปรี้ยวหรือ sourdough ที่จะตัดหัวแล้วเอาใส้ออกเพื่อทำเป็นภาชนะใส่ซุปจัดเป็นซุปจานเด็ดของ San Francisco ทีเดียว ถ้าไม่รู้จะลองร้านไหน ก็ลองร้านขายขนมปังชื่อดังชื่อ Boudin ที่มีอยู่ทั่วเมือง แต่ในย่านนี้อยู่ใกล้กับทางเข้า Pier 39

“ใครที่ชอบเที่ยวสนุก กินอร่อย ภายในหนึ่งวัน ต้องมาที่นี่”

ถัดจาก Pier 39 ก็เป็น Pier 41 โครอยากไปเที่ยวเกาะ Alcatraz ที่เป็นคุกเก่าแก่ของ USA ก็ต้องมาจองตั๋วข้ามเกาะที่นี่แหละ เรือที่จะข้ามไปก็เป็นเรือ Blue and Gold Fleet เท่านั้น เดินเลยไปอีกหน่อยก็เป็น Ghirardelli Square ที่มีทั้งร้านไอศกรีมรสเลิศและช็อคโกแลตชื่อดังที่สุดในเมืองนี้ ในร้านนอกจากจะทีทีนั่งให้ได้ทานไอศครีมแล้ว ยังมีเครื่องทำช็อคโกแลตที่บดกันให้เห็นกันชัด ๆ หาดูไม่ได้ที่ไหนง่าย ๆ นะ แล้วถ้าใครอยากชิมช็อคโกแลต เขาก็มีให้ชิมฟรีตรงทางเข้าร้านด้วย ใครอยากชิมหลายครั้งจะเดินเข้า-ออกบ่อย ๆ ก็ไม่มีใครว่า

นอกจากสถานที่ต่าง ๆ ที่พูดถึง ในย่านนี้ ยังมี Street Art หรืองานศิลปะจากศิลปินข้างทางมากมาย ดูสวยน่ารักทีเดียว แต่ว่าราคาก็ไม่ใช่ถูก ๆ เลยนะ สรุปแล้วถ้าคุณมีเวลา ใช้เวลา 1 วันเต็ม ๆ ทีนี่ ได้เดินเล่น ช้อปปิ้ง ทานอาหรอร่อย ๆ ก็มีความสุขได้ตลอดวันแล้ว ก็เลยไม่น่าแปลกใจเลยว่าที่นี่จะเต็มไปด้วยผู้คนมากมายตลอดเวลา

ถ้าอยากจะมาที่นี่ก็ง่ายนิดเดียว วิธีที่ดีที่สุดก็ขึ้นรถราง (Cable Car) เลือกคันที่มาสุดสายที่ Fisherman’s Wharf ก็ละกัน ถามคนขับรถรางดูก็ได้ นอกจากจะได้มาเที่ยวที่นี่แล้ว ตลอดทางที่นั่งรถรางก็ได้ดูวิวที่สวยงามน่ารักของเมืองนี้อีกด้วย เพลินไปอีกแบบ

ใส่ความเห็น

ติดต่อ 0-2943-8380
คลิกเพื่อโทร