ประสบการณ์ Work & Travel ที่ประเทศอเมริกา

ประสบการณ์ Work & Travel ที่ประเทศอเมริกา


สวัสดีค่ะ

น้องๆ ที่สนใจไปเรียนต่อต่างประเทศ คงเคยได้ยิน โครงการ Work & Travel กันมา ไม่มากก็น้อยใช่ไหมค่ะ ? บางคนอาจจะ สนใจจะไป Work & Travel แต่ยังไม่มีข้อมูล การไป  Work & Travel ว่าเป็นยังไงบ้าง น้องๆ และผู้ปกครอง ก็ลองอ่าน blog บทความนี้ดูนะค่ะ เป็นประสบการณ์ตรงของ จากทีมงาน Learning Curve ที่เคยมีประสบการณ์ ไป Work & Travel ที่ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่อยากจะมาบอกเล่า แบ่งปันประสบการณ์กันค่ะ

เลือก Agent ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

ฉันรู้จัก โครงการ Work & Travel ครั้งแรก ตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 3 ช่วงที่กำลังจะฝึกงาน หลังจากรู้จักโครงการนี้ ฉันก็ ตัดสินใจได้ทันทีเลยว่า ฉันจะไปเข้าโครงการ Work & Travel กับเขาด้วย เมื่อทุกอย่างลงตัว  ก็ติดต่อเอเยนต์ทันที สรุปว่าได้ Agent A (ขอตั้งชื่อสมมุติแล้วกันนะค่ะ)  เหตุผลที่เลือกที่นี้ก็เพราะเขามีสาขาที่ใกล้บ้านเราไม่ต้องไปไกลถึงกรุงเทพ   (ตอนนั้น เรียนที่ต่างจังหวัดค่ะ) แต่แล้วก็ต้องมีเกือบจะไม่ได้ไปร่วมโครงการนี้ซะแล้ว เพราะว่า ทางคุณพ่อ ไม่อนุญาต เพราะเขาไม่เห็นด้วย เป็นห่วงลูกสุดสวย (นั่นเอง) แต่สุดท้าย ท่านก็เข้าใจ โดยมีคุณแม่ คอยช่วยสนับสนุนอยู่ข้างหลัง เพราะท่านอยากให้ ลูกสาวคนนี้ ได้เปิดโลกกว้าง ได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ในโลกใบกว้างนี้ (กราบคุณแม่งามๆ ไปหลายทีเลยค่ะ) ผ่านด่าน คุณพ่อคุณแม่เรียบร้อยแล้ว (เหมือนได้วีซ่าขั้นแรกเลย) ก็มาถึงขั้นตอนการสัมภาษณ์งาน

เจ้าหน้าที่ชาวต่างประเทศที่เดินทางมาสัมภาษณ์เองที่กรุงเทพเลย ฉันนัดกับเพื่อน  ออกเดินทางมุ่งหน้าด้วยความหวังว่าจะได้ ตำแหน่งงานดี ๆ แต่แล้วเมื่อมาถึงยังสถานที่นัดหมายก็ ต้องเศร้าใจ เพราะมีคนมาสัมภาษณ์งานเยอะมาก คิวก็เริ่มผ่านไปเรื่อย ๆ ตำแหน่งงานก็น้อยลง ๆ เพราะเขาใช้วิธี คนที่เขาเข้าไปสัมภาษณ์ก่อนก็ได้งานก่อน สุดท้ายแล้ว ฉันก็ต้องรับประทานแห้วกลับบ้านนอก เพราะงานน้อยกว่าจำนวนคนสัมภาษณ์  เพราะ Agent A ที่เอาแต่ จำนวนผู้สมัครเข้าว่า ไม่ดูจำนวนงานที่รับเลย เรียกว่า วันนี้เสียเงินฟรี ๆ 1,000 บาท ค่าสัมภาษณ์งาน

ต่อมาเจ้าหน้าที่เลยมาแจ้ง ให้ทราบว่า ต้องเพิ่มเงิน 4,200 เป็นค่าจัดหางานให้ ตอนนั้นอยากไปนี่นา ลองจ่ายดูก็ได้ (ก็อย่างนี้แหละค่ะ ความอ่อยด้อยประสบการณ์ ก็นำมาให้โดนเสียค่าใช้จ่ายที่ เราไม่จำเป็นต้องเสีย น้องควรเช็คข้อมูล Agent ที่เลือกไปให้ดีก่อน) ก็เลยเสียเงินเพิ่มให้กับทาง Agent A ซึ่งวันรุ่งขึ้น คนที่ไม่ได้งาน ก็ผิดหวังกันมาก ถึงขึ้นโมโห โทรไปวีนแตกที่ ออฟฟิค Agent A และมีไปโพสต์ต่อว่าในเน็ตด้วยค่ะ จน Agent A เขาต้องปิดบริษัทหนีไปพักหนึ่งเลยค่ะ (กรรมใดใครก่อแท้ๆ) หลังจากดูท่าไม่ดีแล้ว ท่าทางเป็น Agent นรก แน่ๆ  เลย ก็เลยไป ปรึกษากับเพื่อน เขาเลยแนะนำบริษัทอีกหลายที่มาให้ สุดท้ายก็เลยเลือก Agent B  ซึ่งต่างกันราวฟ้ากับเหวเลย ที่นี่ ไม่ต้องสัมภาษณ์ ไม่ต้องจ่ายเงินค่าสัมภาษณ์เหมือนที่แรกเลย  แต่น่าเสียดายคือ ตำแหน่งงานดีๆ คนอื่นเขาเลือกไปหมดแล้ว แต่ก็ไม่ไปไรนะดีกว่าไม่มีให้เลือกเลย ตอนเลือกงาน ก็อาศัยเอาความเป็นขี้หนาว เข้าว่า เลยเลือกจากเมืองก่อน เอาที่อยู่แถวๆ ทะเล ก็แล้วกันจะได้ไม่หนาวดี ซึ่งก็เหลืองานเดียวที่เข้าตาที่สุดคือ ตำแหน่ง housekeeping (พนักงานทำความสะอาดบ้านนั่นเอง) ที่ Edge Water Beach Resort , Panama City Beach , Florida เตรียมเอกสารตามที่พี่เขาแจ้งมา  ส่วนกับบริษัทเดิมกว่าจะโทรศัพท์มาแจ้งตำแหน่งงานก็จวนจะไปสัมภาษณ์วีซ่าแล้ว กับงานที่ได้จาก Agent B แล้ว ฉันก็เลย ตอบปฏิเสธไปทันทีค่ะ  ถือซะว่าเป็นบทเรียนราคาแพงมากสำหรับตัวเราแล้วกันค่ะ ก็เอามาเตือนน้อง ๆ ที่กำลังคิดจะไป Work & Travel แล้วกันนะค่ะ

ยังไม่จบ อ่านต่อ ตอนที่ 2

แถมท้าย… Work & Travel คืออะไร ?


“Summer นี้ ไปฝึกภาษาในต่างแดน แถมได้เที่ยวโดยไม่ต้องเสียเงิน เพราะหักจากค่าแรง”
“สัมผัสประสบการณ์ใหม่ ฝึกงานในต่างประเทศ เรียนรู้ภาษาจากเจ้าของภาษา”

เหล่านี้ล้วนเป็นข้อความเชิญชวน ที่ปรากฏให้เห็นในหน้าหนังสือพิมพ์อย่างดาษดื่น ชักชวนให้นิสิต นักศึกษาวัยกำลังเรียนรู้ให้อยาก “ลองของ” หาช่องทางบินลัดฟ้าไปไขว่คว้าประสบการณ์แปลกใหม่ในต่างแดน

โครงการทำงานภาคฤดูร้อนในต่างแดนนั้น รู้จักกันดีในหมู่นักศึกษาในชื่อ “โครงการทำงานและท่องเที่ยวภาคฤดูร้อน” (Summer Work/travel Program) หรือ WAT นั่นเอง ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นโครงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่ รัฐบาลสหรัฐอเมริกาอนุญาตให้ผู้เข้าร่วมจากประเทศต่างๆ เดินทางเข้าประเทศได้ ในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน โดยได้รับวีซ่าประเภท J-1 สำหรับการศึกษาแลกเปลี่ยน ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการ WAT จะไปทำงานตามสัญญาการจ้างงานระยะสั้น และท่องเที่ยว ภายในระยะเวลาไม่เกิน 4 เดือน

อ้างอิง:
– ข้อมูลบางส่วนจาก  หนังสือ WORK & TRAVEL เสี่ยงบริสุทธิ์ขุดคุ้ยเส้นทาง “ท่องเที่ยวเชิงกรรมกร”)
– รูปประกอบนำมาจากอินเทอร์เน็ต

ใส่ความเห็น

ติดต่อ 0-2943-8380
คลิกเพื่อโทร